รวมเรื่องราวเกี่ยวกับวิทยุสมัครเล่น การทดลองวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งเรื่อง เครื่องรับ เครื่องส่ง ระบบสายอากาศ การแพร่กระจายคลื่น สายนำสัญญาณ การตรวจซ่อมอุปกรณ์ทั่วไป รูปแบบการติดต่อสื่อสาร ฯลฯ ## hs8jyx สอบผ่านวิทยุสมัครเล่นขั้นต้น 2539 ขั้นกลาง 2543 US Ham 2553 (ag6bd Extra Class) ## https://www.facebook.com/ag6bd วรวุฒิ ศรีทอง Line ID :: hs8jyx
วันจันทร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2556
นำเครื่องส่ง 18 MHz CW มาปรับปรุง
ต้องการทำเครื่องส่งที่อยู่ด้านบนมาลงกล่องใหม่ด้านล่าง เพื่อความสวยงามและสะดวกในการใช้งาน ในการเปลี่ยนกล่องครั้งนี้ ผมจะปรับแต่งกำลังส่งให้อยู่ที่ 5 วัตต์ (ไฟ 12 โวลต์) หรือกำลังส่งเต็มที่ของ การเล่นแบบ QRP
นำอุปกรณ์ทั้งหมดมาลงบนบอร์ดใหม่ ให้พอดีกับกล่อง รวมไปถึงแก้ไขอุปกรณ์ในวงจร Low Pass Filter ใหม่
ใช้ MOSFET เบอร์ IRF510 เป็น PA
ใช้ 74HC00 เป็น Oscillator ส่วน Crystal ใช้ 18.08 MHz
74HC00 เป็น Quad 2-input NAND gate (HC = HC - High speed CMOS)โดยมีขา 7 เป็นขากราวด์ ขา 14 เป็นไฟ + ใน datasheet บอกว่าใช้ได้กับแรงดันสูงสุดที่ 6 โวลต์บ้าง 7 โวลต์บ้าง แล้วแต่ยีห้อด้วย แต่อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ผมใช้แรงดันถึง 8โวลต์ ก็ไม่มีปัญหาอะไรกับ ไอซีตัวนี้
ทดลองวงจรกำเนิดความถี่ที่ใช้ในวงจรนี้
แรงดัน Output ของ IC ใช้แรงดันไฟเลี้ยง 7 โวลต์ แร่ 15.000 MHz ได้ความแรงสัญญาณออกมาดังรูป
ทดลองต่อ Decoupling capacitor 0.1uF และไม่ต่อสัญญาณที่ออกมาดังรูป จะเห็นได้ว่า C ที่จุดนี้มีความสำคัญไม่น้อยเลยทีเดียว
ต่อ Decoupling capacitor 0.1uF
ไม่ต่อ Decoupling capacitor 0.1uF
ด้านหลังเป็น ขั้วต่อสายอากาศ ขั้วต่อไปยังเครื่องรับ และ ไฟเลี้ยงวงจร
ด้านหน้าเป็น หลอดไฟ Power และหลอดไฟแสดงการส่งสัญญาณ ข้างล่างเป็นแจ็กต่อคีย์ ขวามือเป็นตัวจูนความถี่
ติตามเพิ่มเติมได้ที่ http://logic-chip-transmitter.blogspot.com/
วันจันทร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2556
ทดลองวัดค่า Input และ Output Impedance
** ในคู่มือของ Agilent บอกว่าการวัดด้วยวิธีนี้เหมาะกับความถี่ไม่เกินความถี่ 100 MHz ขาอุปกรณ์ควรสั้นที่สุด แต่ในตัวอย่างนี้เป็นการวัดแบบคร่าว ๆ เท่านั้น**
ทดลองวัดค่า Input และ Output Impedance โดยการวัดแรงดัน V1 และ V2
วงจรกำเนิดความถี่ที่ใช้ในการทดลอง http://hs8jyx.blogspot.com/2013/01/crystal.html
การทดลองที่ 1 ต้องการหา Impedance ของ C1 ที่ความถี่ 15.000 MHz C1 เป็น C ที่เราไม่ทราบค่า
วัดแรงดัน V1 ได้ 0.31Vpp และ V2 ได้ 0.13 Vpp ใช้ R1 470 โอห์ม
แปลงแรงดันให้เป็น rms = 0.3535 x Vpp
V1 = 0.31Vpp = 0.11Vrms
V2 = 0.13Vpp = 0.046 Vrms
หากระแสที่ไหลผ่านวงจร
Iin = (V1-V2) /R
Iin = (0.11-0.046)/470
Iin = 136.17 uA
เมื่อได้กระแสที่ไหลผ่านวงจรเราก็สามารถหา Imperdance ได้
Z= V2/Iin
Z= 0.046 / 136.17uA
Z= 337.8 โอห์ม
ในตัวอย่างนี้ใช้ C ค่า 30 pF มาทดลอง ค่าที่คำนวนได้เท่ากับ ??? pF
เราสามารถหาค่า C ได้จากสูตร
C = 1/(2PiXcF)
C = 1/ (2 x 3.14 x 337.8 x 15MHz)
C = 1/ 0.0318
C = 31.41pF
การทดลองที่ 2 ต้องการหา Impedance ของ L1 ที่ความถี่ 15.000 MHz L1 เป็น L ที่เราไม่ทราบค่า
ตัวอย่างวัดแรงดัน V1 ได้เท่ากับ 0.3Vpp V2 เท่ากับ 0.09Vpp ใช้ R1 470 โอห์ม
V1 = 0.30Vpp = 0.106Vrms
V2 = 0.09Vpp = 0.032 Vrms
หากระแสที่ไหลผ่านวงจร
Iin = (V1-V2) /R
Iin = (0.30-0.032)/470
Iin = 157.44 uA
เมื่อได้กระแสที่ไหลผ่านวงจรเราก็สามารถหา Impedance ได้
Z= V2/Iin
Z= 0.032 / 157.44 uA
Z= 203.25 โอห์ม
ในตัวอย่างนี้ใช้ L ค่า 2.7uH มาทดลอง ค่าที่คำนวนได้เท่ากับ ??? uH
เราสามารถหาค่า L ได้จากสูตร
L= XL/2PiF
L = 203.25 / (2 x 3.14 x 15 MHz)
L = 203.25 / 94247779.6
L= 2.15654 uH
การทดลองที่ 3 ต้องการหา Impedance ระหว่างขา 1 และ 2 ของ IC NE602AN ที่ความถี่ 15.000 MHz
V1 = 0.31 Vpp = 0.110 Vrms
V2 = 0.115 Vpp = 0.041 Vrms
หากระแสที่ไหลผ่านวงจร
Iin = (V1-V2) /R
Iin = 146.8 uA
เมื่อได้กระแสที่ไหลผ่านวงจรเราก็สามารถหา Impedance ได้
Z= V2/Iin
Z= 0.041 / 146.8 uA
Z= 279.3 โอห์ม
การทดลองที่ 4 ต้องการหา Impedance ระหว่างขา 1 และ 2 ของ IC NE602AN ที่ความถี่ 8.000 MHz
V1 = 1.4 Vpp = 0.459 Vrms
V2 = 0.5 Vpp = 0.177 Vrms
หากระแสที่ไหลผ่านวงจร
Iin = (V1-V2) /R
Iin = 676.595 uA
เมื่อได้กระแสที่ไหลผ่านวงจรเราก็สามารถหา Impedance ได้
Z= V2/Iin
Z= 0.177 / 676.595 uA
Z= 731.6 โอห์ม
ทดลองวัดค่า Input และ Output Impedance โดยการวัดแรงดัน V1 และ V2
วงจรกำเนิดความถี่ที่ใช้ในการทดลอง http://hs8jyx.blogspot.com/2013/01/crystal.html
การทดลองที่ 1 ต้องการหา Impedance ของ C1 ที่ความถี่ 15.000 MHz C1 เป็น C ที่เราไม่ทราบค่า
วัดแรงดัน V1 ได้ 0.31Vpp และ V2 ได้ 0.13 Vpp ใช้ R1 470 โอห์ม
แปลงแรงดันให้เป็น rms = 0.3535 x Vpp
V1 = 0.31Vpp = 0.11Vrms
V2 = 0.13Vpp = 0.046 Vrms
หากระแสที่ไหลผ่านวงจร
Iin = (V1-V2) /R
Iin = (0.11-0.046)/470
Iin = 136.17 uA
เมื่อได้กระแสที่ไหลผ่านวงจรเราก็สามารถหา Imperdance ได้
Z= V2/Iin
Z= 0.046 / 136.17uA
Z= 337.8 โอห์ม
ในตัวอย่างนี้ใช้ C ค่า 30 pF มาทดลอง ค่าที่คำนวนได้เท่ากับ ??? pF
เราสามารถหาค่า C ได้จากสูตร
C = 1/(2PiXcF)
C = 1/ (2 x 3.14 x 337.8 x 15MHz)
C = 1/ 0.0318
C = 31.41pF
การทดลองที่ 2 ต้องการหา Impedance ของ L1 ที่ความถี่ 15.000 MHz L1 เป็น L ที่เราไม่ทราบค่า
ตัวอย่างวัดแรงดัน V1 ได้เท่ากับ 0.3Vpp V2 เท่ากับ 0.09Vpp ใช้ R1 470 โอห์ม
V1 = 0.30Vpp = 0.106Vrms
V2 = 0.09Vpp = 0.032 Vrms
หากระแสที่ไหลผ่านวงจร
Iin = (V1-V2) /R
Iin = (0.30-0.032)/470
Iin = 157.44 uA
เมื่อได้กระแสที่ไหลผ่านวงจรเราก็สามารถหา Impedance ได้
Z= V2/Iin
Z= 0.032 / 157.44 uA
Z= 203.25 โอห์ม
ในตัวอย่างนี้ใช้ L ค่า 2.7uH มาทดลอง ค่าที่คำนวนได้เท่ากับ ??? uH
เราสามารถหาค่า L ได้จากสูตร
L= XL/2PiF
L = 203.25 / (2 x 3.14 x 15 MHz)
L = 203.25 / 94247779.6
L= 2.15654 uH
การทดลองที่ 3 ต้องการหา Impedance ระหว่างขา 1 และ 2 ของ IC NE602AN ที่ความถี่ 15.000 MHz
V1 = 0.31 Vpp = 0.110 Vrms
V2 = 0.115 Vpp = 0.041 Vrms
หากระแสที่ไหลผ่านวงจร
Iin = (V1-V2) /R
Iin = 146.8 uA
เมื่อได้กระแสที่ไหลผ่านวงจรเราก็สามารถหา Impedance ได้
Z= V2/Iin
Z= 0.041 / 146.8 uA
Z= 279.3 โอห์ม
การทดลองที่ 4 ต้องการหา Impedance ระหว่างขา 1 และ 2 ของ IC NE602AN ที่ความถี่ 8.000 MHz
V1 = 1.4 Vpp = 0.459 Vrms
V2 = 0.5 Vpp = 0.177 Vrms
หากระแสที่ไหลผ่านวงจร
Iin = (V1-V2) /R
Iin = 676.595 uA
เมื่อได้กระแสที่ไหลผ่านวงจรเราก็สามารถหา Impedance ได้
Z= V2/Iin
Z= 0.177 / 676.595 uA
Z= 731.6 โอห์ม
วันศุกร์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2556
ทดลองวงจร Super VXO 10.075 MHz
ทดลองวงจร Super VXO 10.075 MHz เพื่อนำไปใช้ในการทดลองสร้างวิทยุรับส่ง 18 MHz
จากการทดลอง
แร่ 10.075 MHz สามารถปรับความถี่ได้ในช่วง 10.071 - 10.089 MHz
แร่ 10.0916 MHz สามารถปรับความถี่ได้ในช่วง 10.088 - 10.106 MHz
(18 KHz) โดยประมาณ
จากการทดลอง
แร่ 10.075 MHz สามารถปรับความถี่ได้ในช่วง 10.071 - 10.089 MHz
แร่ 10.0916 MHz สามารถปรับความถี่ได้ในช่วง 10.088 - 10.106 MHz
(18 KHz) โดยประมาณ
วันอังคารที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556
update โปรแกรม CW Freak ด้วย CW Freak.NET รันบน Win 7-8 ได้
"CW Freak.NET"suceeds "CW Freak", which can run on Windows 2000 sp4 / Windows XP sp3 / Windows Vista sp2 / Windows 7 sp1 / Windows 8.
Download ได้ที่ http://www.ji0vwl.com/cw_freak_net_e.html
ทดลองเล่นดู เจอลูกเล่นใหม่ Screen Shot
วันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2556
วันจันทร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
เครื่องรับ 21 MHz ทดลอง AGC และ ATT
21MHz Superheterodyne receiver ทดลอง AGC (Automatic gain control ) และ ATT. (ลดทอนสัญญาณภาครับ) ลง 10 dB ในกรณีที่สัญญาณเข้ามาแรงเกินไป
รับสัญญาณตอนเย็น ด้วยสายอากาศไดโพล
วงจร ATT.
วงจร AGC
รับสัญญาณตอนเย็น ด้วยสายอากาศไดโพล
วงจร ATT.
วงจร AGC
วันอาทิตย์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2556
เครื่องรับ 21 MHz หลังจากเพิ่ม Preamp
บทความนี้ต่อเนื่องมาจาก http://hs8jyx.blogspot.com/2013/01/vfo-6-mhz.html
ผมได้เลือกใช้ RF-Preamp 21 MHz ของ W7ZOI
ใส่ Att 10 dB เพื่อลดความแรงของสัญญาณลงในกรณีที่สัญญาณเข้ามาแรงมากเกินไป
ถ้าต้องการที่จะลดทอนสัญญาณเป็นค่าอื่น ๆ เราสามารถคำนวนใหม่ได้ หรืออาจจะใช้โปรแกรม
สามารถ Download ได้ที่ http://en.kioskea.net/download/download-11156-attenuator-calculator
ผมได้เลือกใช้ RF-Preamp 21 MHz ของ W7ZOI
ใส่ Att 10 dB เพื่อลดความแรงของสัญญาณลงในกรณีที่สัญญาณเข้ามาแรงมากเกินไป
ถ้าต้องการที่จะลดทอนสัญญาณเป็นค่าอื่น ๆ เราสามารถคำนวนใหม่ได้ หรืออาจจะใช้โปรแกรม
สามารถ Download ได้ที่ http://en.kioskea.net/download/download-11156-attenuator-calculator
วันเสาร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2556
เครื่องรับ 21 MHz Super VXO ของ HS3XVP
รูปเครื่องรับวิทยุความถี่ 21 MHz ของ HS3XVP จากการทดสอบตัวนี้สามารถรับฟังใด้ในช่วง 21.195 MHz - 21.256 MHz ซึ่งมีความกว้างถึง 61 KHz สำหรับระบบ Super VXO แล้วถือว่าทำได้ดีเลย (ไม่มีปัญหา Freq drift)
จากรูปด้านล่าง สายสีแดงควรจะสั้นที่สุด และไม่ควรวางผาดผ่านสายอื่น ๆ เพื่อคุณภาพของเครื่องรับ และแก้ปัญหาสัญญาณรบกวนต่าง ๆ
จากรูปด้านล่าง สายสีแดงควรจะสั้นที่สุด และไม่ควรวางผาดผ่านสายอื่น ๆ เพื่อคุณภาพของเครื่องรับ และแก้ปัญหาสัญญาณรบกวนต่าง ๆ
วันจันทร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2556
วัดการตอบสนองความถี่ของแร่ Crystal
วงจรจาก ARRL Handbook
FS = 14.999 MHz
Fp = 15.007 MHz
วันอังคารที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2556
ทดลองเสถียรภาพของวงจร Super VXO ความถี่ 21 MHz
รูปวงจรที่ใช้ในการทดลอง ต่ออุปกรณ์ดังรูป มีการ shield กล่องแต่ไม่ครบทุกด้าน ไม่มีการชดเชยอุณหภูมิ ขดลวด 5.6 uH ใช้แบบสำเร็จรูป และอุณหภูมิห้องในการทดลองประมาณ 31 C.
เราเลือกใช้แร่ 21.251465 MHz จำนวน 2 ตัว การทดลองจะทดลองที่ 2 ความถี่คือ ความถี่ที่ดึงความถี่แร่ลงมาได้มากที่สุด 21.181200 MHz โดยประมาณ (ดึงลงมา 70265 Hz หรือ 70.265 KHz)
และความถี่ที่ 2 คือความถี่ที่ดึงความถี่แร่ลงมาปานกลาง คือ 21.232550 MHz
(ดึงลงมา 18915 Hz หรือ 18.915 KHz)
ตารางที่ 1 ความถี่ที่ดึงความถี่แร่ลงมาได้มากที่สุด 21.181200 MHz (วงจรตัวอย่าง) ในเวลา 45 นาที ความถี่ผิดเพื้ยนไปจากตอนเริ่มเปิดเครื่อง 5050 Hz หรือ 5.5KHz ซึ่งถือว่ามาก
ตารางที่ 2 ความถี่ที่ดึงความถี่แร่ลงมาปานกลาง คือ 21.232550 MHz
ความถี่ผิดเพื้ยนไปจากตอนเริ่มเปิดเครื่อง 650 Hz หรือ 0.65 KHz ซึ่งก็ยังถือว่ามากอยู่ แต่ถ้ามีการเปิดเครื่องทิ้งไว้ก่อนใช้งานจริง 5 นาที จะมีความผิดเพื้ยนรวม 260 Hz สำหรับการทำเครื่องรับฟังระบบเสียงพูด SSB ถือว่ายังใช้งานได้ ไม่มีปัญหา แต่ยังคงมากอยู่สำหรับระบบ CW
สิ่งที่ควรทำเพื่อเพิ่มเสถียรภาพของวงจรคือ
- ไม่ควรดึงความถี่ของแร่ลงมามากเกินไปจนเกิดความเพื้ยนเกินที่จะยอมรับได้ ถ้าเรารับสัญญาญที่ความถี่ไม่ต่างจากความถี่ที่เขียนไว้บนตัวแร่มากนัก วงจรจะมีเสถียรภาพดีมาก แต่ถ้ายิ่งความถี่ต่ำลงมาก ความเพี้ยนก็ยิ่งมากขึ้นตามลำดับ
- จัดให้มีการชดเชยอุณหภูมิ
- ขดลวดพันบนแกนที่มี เสถียรภาพทางความร้อนดี เช่นแกน Toroid แบบ Mix6 และยึดให้แน่นหนาไม่มีการเคลื่อนที่ของขดลวด รวมไปถึงใช้ขดลวดขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อย เพราะขดลวดขนาดใหญ่จะมีการเปลี่ยนแปลงความร้อนช้ากว่าขดลวดขนาดเล็ก
- ทำกล่อง Shield ให้วงจร อุปกรณ์ที่ก่อให้เกิดความร้อนควรแยกไว้นอกกล่อง เช่น IC Regulator เป็นต้น
วันอาทิตย์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2556
Ceramic Capacitor Temperature Coefficient
ตัวอย่างเช่น
ดำ NP0
แดง N075
ส้ม N 150
เหลือง N220
เขียว N330
น้ำเงิน N470
ม่วง N750
แบบ N220
แบบ N150
แบบ NP0
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)



























